“อนุทิน” ร่วมภูธรภาค 5 แถลงจับไอซ์มโหฬาร 1.5 ตัน ที่เชียงราย รวบ “เสี่ยจิว” ตัวการใหญ่ ปลอมชุด-รถทหาร ขนไอซ์ถัง 200 ลิตร มท.1 ย้ำรัฐบาลปราบยาเสพติดเข้มข้น ชมตำรวจจับเป็นลดสูญเสีย

***เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 9 มีนาคม 2568 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย (บก.ภ.เชียงราย) นายอนุทิน  ชาญวีรกูล  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหายาเสพติดรายสำคัญ กรณีการจับกุมยาไอซ์ล็อตใหญ่จำนวนกว่า 1,500 กิโลกรัม สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 7 คน โดยดัดแปลงรถบรรทุกให้คล้ายรถบรรทุกทหารเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 8 มี.ค.2568 ที่ผ่านมา โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภาค 5 พล.ต.ต.มานพ เสนากุล ผบก.ภ.จว.เชียงราย พล.ต.กิดากร จันทรา ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมนายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ นายประสงค์ หล้าอ่อน นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ นายรุจติศักดิ์ รังษี 4 รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย น.ส.อัญญารัตน์ มาจันทร์ ผอ.ศูนย์วิเคราะห์ข่าวและเฝ้าระวัง ปปส.ภาค5 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว

***สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจจาด กก.สส.ภ.จว.เชียงราย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสภ.แม่ฟ้าหลวง และ สภ.แม่จัน จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ทหาร บก.ผาแด่น ฉก.ทัพเจ้าตาก ได้ร่วมตรวจยึดยาไอซ์บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีเขียวคล้ายถุงชา น้ำหนักประมาณถุงละ 1 กิโลกรัม บรรจุอยู่ในกระสอบหลากสีดัดแปลงเป็นเป้สะพายหลัง จำนวน 44 กระสอบ รวมน้ำหนักประมาณ 1,418 กิโลกรัม บรรทุกอยู่ในรถยนต์กระบะ จากนั้นได้ทำการสืบสวนขยายผล พบว่ามีนายชุติธัญญ์ จิววิริยะไพศาล หรือเสี่ยจิว เป็นผู้สั่งการควบคุมการลักลอบลำเลียงยาเสพติด จึงได้ติดตามขยายผลอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งสามารถสกัดการลำเลียงได้ในที่สุด

***นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า คดีนี้ถือเป็นการจับกุมขบวนการยาเสพติดรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่ง ใช้การอำพรางตัวเป็นเจ้าหน้าที่โดยใช้รถเหมือนรถทหาร และผู้ต้องหาที่ได้รับบาดเจ็บเคยเป็นทหารมาก่อนจริง แต่ถูกปลดออกประจำการแล้วเนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันกับยาเสพติดอาศัยชั้นเชิงเดิมในการกระทำความผิด ซึ่งยาเสพติดล็อตนี้คาดว่ามีเป้าหมายจะส่งไปยังต่างประเทศ ถ้าสามารถหลุดรอดนำออกไปต่างประเทศได้จะมีราคาถึงกิโลกรัมละ 1 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งหมดกว่า 1,500 ล้านบาท และขอชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ได้สกัดกั้นยาเสพติดล็อตนี้เอาไว้ได้อย่างกล้าหาญ และหลีกเลี่ยงการปะทะจนสามารถจับเป็นผู้ต้องหาได้ลดการสูญเสียทั้งสองฝ่าย  

***นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวอีกว่า รัฐบาลโดยการนำของน.ส.แพทองธาร  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีนโยบายปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้นภายใต้แนวคิด “Seal Stop Safe” เพื่อป้องกันยาเสพติดเข้าสู่ประเทศ จึงได้มีการผนึกกำลังของทุกภาคส่วนร่วมกันดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในทุกพื้นที่ทั่วประเทศอย่างเข้มข้นจริงจังเพื่อให้เกิดความมั่นคงมากยิ่งขึ้น

***พล.ต.ท.กฤตธาพล ผบช.ภาค 5 กล่าวว่า นบ.ยส.35 ประกอบด้วยตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และ ป.ป.ส.ได้สืบทราบว่าเครือข่ายยาเสพติดรายนี้เป็นของ “เสี่ยจิว” หรือนายชุติธัญญ์ จิววิริยะไพศาล อายุ 40 ปี ชาวลีซอชาวดอยแม่สลองแต่มีที่อยู่อยู่ที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี มีบ้านหรูอยู่ที่ ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย มีสวนทุเรียนอยู่ที่ อ.แม่สาย และ ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย มีรีสอร์ทอยู่ที่ อ.เมืองเชียงราย และมีเมียน้อย 5 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมของเสี่ยจิวมาตั้งแต่ปี 2566 เป็นเวลากว่า 3 ปี มีการสกัดยึดของกลางได้แต่ยังจับเสี่ยจิวไม่ได้ กระทั่งวันที่ 6 มี.ค.2568 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่พบการเคลื่อนไหวโดยเสี่ยจิวและพวกอีก 6 คน พร้อมรถยนต์ 2 คัน ไปพบปะกันที่รีสอร์ทของเสี่ยจิวเขต อ.เมืองเชียงราย จากนั้นวันที่ 7 มี.ค.พากันไปที่สวนทุเรียนที่ ต.บ้านแซว ก่อนจะแยกย้ายกันขับรถ 5 คัน หนึ่งในนั้นเป็นรถบรรทุก 6 ล้อที่อำพรางเป็นรถขนส่งทหารพากันขึ้นไปบนดอยแม่สลอง หมู่บ้านสันติคีรี หมู่ 1 ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง

***จนกระทั่งเวลา 03.30 น.วันที่ 8 มี.ค.2568 แต่เจ้าหน้าที่เห็นรถบรรทุก 6 ล้อไปจอดอยู่หน้าอนุสรณ์สถานวีรชนในหมู่บ้านสันติคีรีจึงเข้าไปตรวจสอบไม่พบบุคคลใด พบแต่ถังโลหะขนาด 200 ลิตร ภายในบรรจุไอซ์จำนวนมากดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงปิดล้อมดอยแม่สลองไว้ จนเวลา 04.30 น.วันเดียวกันได้มีรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว มีชาย 2 คนและหญิง 1 คน  ขับมาบนถนนจึงเข้าไปตรวจสอบ แต่คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเปิดทางทำให้เกิดการปะทะกัน มีคนร้ายได้รับบาดเจ็บ 2 คน นอก และยังสามารถจับกุมคนร้ายในเครือข่ายที่ขับรถหลบหนีได้ที่ด่านตรวจกิ่วสะไต ต.ป่าตึง อ.แม่จัน ได้อีก 4 คน รวมผู้ต้องหา 7 คน

***ต่อมาวันที่ 9 มี.ค.2568 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ไปตรวจสอบที่บ้านเสี่ยจิว พบถังลักษณะเดียวกันอีกหลายถัง พบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนอีกเป็นจำนวนมาก ลูกระเบิดสังหาร 7 ลูก เสื้อลายพลางทหาร 5 ตัว โดยตัวหนึ่งปักกเป็นชื่อ จิววิริยะไพศาล ซึ่งเป็นชื่อของเสี่ยจิว ส่วนที่เหลือเป็นของคนร้ายที่ยิงต่อสู้กับตำรวจ 2 คน เมื่อไปตรวจสอบต่อที่สวนทุเรียน ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน พบเมียน้อยของเสี่ยจิวพร้อมเสื้อลายพลางทหารจำนวนหนึ่งและสามารถยึดรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุได้อีก 1 คัน และทรัพย์สินอื่นๆ รวมของกลางที่ยึดทรัพย์ได้ประมาณกว่า 40 ล้านบาท และศาลได้ออกหมายจับเสี่ยจิวแล้ว

***พล.ต.กิดากร ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง กล่าวว่า คดีนี้เป็นผลมาจากวันที่ 26 ธ.ค.2567 ที่ทหารได้สกัดรถขนไอซ์น้ำหนัก 1,413 กิโลกรัมได้ในท้องที่ อ.แม่ฟ้าหลวง แต่ไม่พบคนร้าย แต่ได้พบโทรศัพท์มือถืออยู่ในรถจึงได้มอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการขยายผลจับกุมและยึดไอซ์ของเครือข่ายเสี่ยจิวได้ดังกล่าว สำหรับรถบรรทุก 6 ล้อที่ใช้ขนยาไอซ์ทางกองทัพบกแจ้งว่าไม่มีใช้ในกองทัพ พบว่าเป็นการอำพรางให้คล้ายรถขนส่งของทหารโดยการพ่นสีเขียวขี้ม้าลงบนตัวถังรถทั้งหมด ส่วนป้ายกงจักรตรวจสอบแล้วพบว่าเคยมีอยู่จริง แต่ประจำกับรถปิ๊กอัพที่ปลดประจำการและจำหน่ายซากไปแล้วก่อนนำเอาตัวเลขป้ายมาใส่ในรถ 6 ล้อของกลาง เมื่อตรวจสอบไปยังกองทัพบกก็พบว่าไม่มีรถคันนี้ประจำการอยู่ ขณะเดียวกันผู้ต้องหาชายทั้ง 2 คนไม่ใช่ทหารประจำการในกองทัพแต่ถูกปลดออกนานแล้ว ซึ่งทั้งหมดได้กลับมารวมกลุ่มกันก่อหตุ โดยใช้รถและคราบเดิมอำพรางเจ้าหน้าที่ตามด่านตรวจต่างๆ อาวุธสงครามที่ยึดได้ก็ไม่มีใช้ในกองทัพแต่ล้วนเป็นอาวุธเถื่อนทั้งสิ้น

///ศูนย์ข่าวเชียงรายทูเดย์