5 ธันวาคม 2025

chiangraitodaynews

chiangraitodaynews

กระทรวงอุตสาหกรรมจัดนิทรรศการ-เจรจาธุรกิจผู้ประกอบการภาคเหนือ โครงการ “ปลดล็อคประตูการค้า เชื่อมโอกาสธุรกิจสู่ตลาดโลก” เพิ่มขีดความสามารถการขนส่งเชื่อมโยงการส่งออกกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง 

นายเดชา จาตุธนานันท์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวง (กลาง)
นางพัชรี สองสีโย อุตสาหกรรมจังหวัดพะเยา (ซ้าย)
ผศ.ดร.ศุภธนิศร์ เติมสงวนวงค์ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้จัดการโครงการฯ (ขวา)

***เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 27 สิงหาคม 2568 ที่ลานจริงใจ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า เชียงราย อ.เมืองเชียงราย นายเดชา จาตุธนานันท์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นประธานเปิดกิจกรรมการเสวนา การจัดนิทรรศการ และการเจรจาธุรกิจ “ปลดล็อคประตูการค้า เชื่อมโอกาสธุรกิจสู่ตลาดโลก”ภายใต้โครงการเพิ่มขีดความสามารถผู้ประกอบการอุตสาหกรรมกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบนด้วยการบริหารจัดการการขนส่งเพื่อการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคและการส่งออกสู่กลุ่มประเทศแม่โขงล้านช้าง  ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 มีนางพัชรี สองสีโย อุตสาหกรรมจังหวัดพะเยา กล่าวรายงาน ผศ.ดร.ศุภธนิศร์ เติมสงวนวงค์ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้จัดการโครงการฯ นายเสริฐ ไชยยานันตา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย นายสายัณ นักบุญ ผู้อำนวยการศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าเชียงราย ให้การต้อนรับ โดยมีผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมร่วมโครงการและออกร้านจำนวนกว่า 30 กิจการ รวมทั้งผู้บริหารจากธนาคารเอสเอ็มอี สาขาเชียงราย

***นางพัชรี สองสีโย อุตสาหกรรมจังหวัดพะเยา กิจกรรมการเสวนา การจัดนิทรรศการเกี่ยวกับเทคโนโลยี นวัตกรรมโลจิสติกส์อัจฉริยะ (Smart Logistics) ระบบบริหารการจัดการการขนส่ง และการเจรจาธุรกิจ โดยกิจกรรมในวันนี้ มีหัวข้อTheme งาน “ปลดล็อคประตูการค้า เชื่อมโอกาสธุรกิจสู่ตลาดโลก” “Northern Thailand Logistics Cluster Connect 2025” ซึ่งเป็นการแสดงถึงพลังแห่งการเชื่อมโยงเครือข่ายโลจิสติกส์ 7 จังหวัดภาคเหนือ ให้ก้าวไปด้วยกัน” กิจกรรมดังกล่าวดำเนินการภายใต้ โครงการเพิ่มขีดความสามารถผู้ประกอบการอุตสาหกรรมกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบนด้วย    การบริหารจัดการการขนส่งเพื่อการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคและการส่งออกสู่กลุ่มประเทศแม่โขงล้านช้าง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ซึ่งมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถลดต้นทุนค่าขนส่งสินค้า และเกิดการเชื่อมโยงกลุ่มเครือข่ายธุรกิจของผู้ประกอบการ ภาคเหนือในห่วงโซ่อุปทานและสร้างโอกาสทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการในพื้นที่   กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน จำนวน 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพะเยา เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย แพร่ และน่าน  กิจกรรมที่สำคัญในครั้งนี้ จะประกอบด้วยการเสวนาจากผู้ทรงคุณวุฒิและผู้ที่มีประสบการณ์ในภาคอุตสาหกรรมและการบริหารจัดการการขนส่ง มาร่วมถ่ายทอดแนวคิด ประสบการณ์ และกลยุทธ์ใน “การจัดการขนส่งเพื่อการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคและการส่งออกสู่กลุ่มประเทศแม่โขงล้านช้าง” การแสดงนิทรรศการอัพเดทเทรนด์นวัตกรรมSmart Logistics & TMS เวทีการเจรจาเชื่อมโยงธุรกิจร่วมกับผู้ประกอบการและผู้ให้บริการ     โลจิสติกส์ และรวมถึงการแสดงและจำหน่ายสินค้าที่มีมาตรฐานการส่งออก โดยกลุ่มเป้าหมายของกิจกรรมประกอบด้วย ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม กลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป หรือผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง/สนับสนุนในห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน เจ้าหน้าที่สานักงานอุตสาหกรรม และแขกผู้มีเกียรติจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวม 120 ท่าน

***นายเดชา จาตุธนานันท์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวง กล่าวว่า กิจกรรมการเสวนา การจัดนิทรรศการ และการเจรจาธุรกิจ “ปลดล็อคประตูการค้า เชื่อมโอกาสธุรกิจสู่ตลาดโลก” เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเพิ่มขีดความสามารถผู้ประกอบการอุตสาหกรรมกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ด้วยการบริหารจัดการการขนส่งเพื่อการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคและการส่งออกสู่กลุ่มประเทศแม่โขงล้านช้าง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยกระทรวงอุตสาหกรรม ได้มอบหมายให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพะเยา ร่วมกับสำนักงานอุตสาหกรรม 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย แพร่ น่าน เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง ดำเนินการโครงการนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำข้อมูลด้านการขนส่งมาวิเคราะห์และนำเทคโนโลยีประยุกต์ใช้ในการวางแผนลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าและลดระยะเวลาที่ใช้ขนส่งสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสถานประกอบการที่ได้รับการพัฒนามีต้นทุนการขนส่งลดลงอย่างน้อยร้อยละ 15 และเกิดการเชื่อมโยงกลุ่มเครือข่ายธุรกิจของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมภาคเหนือในห่วงโซ่อุปทาน และสร้างโอกาสทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการ

***เนื่องจากกลุ่มจังหวัดในภาคเหนือตอนบนมีความพร้อมของโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งและระบบโลจิสติกส์ ที่เชื่อมโยงเส้นทางการขนส่งในประเทศและระหว่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีนตอนใต้และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งมีความได้เปรียบในเชิงภูมิศาสตร์ทางการค้าระหว่างประเทศ สิ่งที่น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่งคือผู้ประกอบการอุตสาหกรรมและผู้ประกอบการที่เกี่ยวเนื่องสนับสนุนใน Supply Chain ในภาคเหนือตอนบน ที่เข้าร่วมโครงการนี้มีขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการบริหารจัดการการขนส่งเพิ่มขึ้น มีต้นทุนการขนส่งที่ลดลง ก่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและมีโอกาสทางธุรกิจ ทำให้ผู้ประกอบการมีความเข้มแข็งและเติบโตต่อไปได้อย่างมั่นคง

***นายเดชา จาตุธนานันท์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวง กล่าวอีกว่า ตามนโยบายของรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมให้การสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมทั่วประเทศสามารถดำเนินกิจการไปได้อย่างมั่นคง และยังมีนโยบายในการส่งเสริมอุตสาหกรรมใหม่ๆอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น อุตสาหกรรมชีวภาพ อุตสาหกรรมโลจิสติคส์ การส่งเสริมเงินทุนเพื่อการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมโดยธนาคารเอสเอ็มอี กองทุนพัฒนาประชารัฐ  

***ผศ.ดร.ศุภธนิศร์ เติมสงวนวงค์ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผู้จัดการโครงการฯ กล่าวว่า โครงการนี้นอกจากการเพิ่มองค์ความรู้ให้แก่ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมแล้ว ยังสามารถเพิ่มผลิตภาพ (Productivity) หรือการเพิ่มกำลังผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปต่อยอดธุรกิจให้มีความยั่งยืนต่อไปได้

///ศูนย์ข่าวเชียงรายทูเดย์

Loading

More Stories