25 เมษายน 2024

chiangraitodaynews

chiangraitodaynews

นายกรัฐมนตรีเปิดงานมหกรรมสิ่งประดิษฐ์ไอซีทีของนักเรียนไทยและนักเรียนญี่ปุ่น ชอบ “แอพสปาใจ” ตรวจสอบความเครียดคน ยันสนับสนุนเยาวชนสร้างนวัตกรรมนายกรัฐมนตรีเปิดงานมหกรรมสิ่งประดิษฐ์ไอซีทีของนักเรียนไทยและนักเรียนญี่ปุ่น

1 min read

***เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 ธ.ค.2565 ที่หอประชุมโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย อ.เมืองเชียงราย พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  เป็นประธานเปิดงานมหกรรมสิ่งประดิษฐ์ทางด้านไอซีทีของนักเรียนไทยและนักเรียนญี่ปุ่น  (Thailand-Japan Student ICT Fair 2022) ชื่นชมนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ใหม่จากความร่วมมือของการแลกเปลี่ยนวิชาการระหว่างนักเรียนไทยและนักเรียนญี่ปุ่น พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมพิธีเปิดและชมผลงานสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาตร์และการแข่งขันทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนไทยและนักเรียนญี่ปุ่น การจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผลงานสิ่งประดิษฐ์ทางด้านไอซีทีของนักเรียนไทยและนักเรียนญี่ปุ่น  รวมถึงการแลกเปลี่ยนประสบการณ์จัดการเรียนการสอนของครู  และการแข่งขันโปรแกรมมิ่ง แฮคกาธอน  มีตัวแทนจากกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัยจำนวน 12 แห่ง  สถาบันการศึกษาที่เน้นการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจำนวน 25 แห่ง  กลุ่มโรงเรียนในโครงการ Super Sciece High Schools ประเทศญี่ปุ่นจำนวน 17 แห่ง  และสถาบันโคเซ็น  ประเทศญี่ปุ่นจำนวน 11 แห่ง  รวมผู้เข้าร่วมงานกว่า 600 คน มีกำหนดจัดงานระหว่าวันที่ 21 ถึง 23 ธันวาคม 2565

***พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า  ในยุคปัจจุบันเราต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลก  โดยเฉพาะเรื่องของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ  ที่หลายประเทศได้รับผลกระทบ การนำเสนอนวัตกรรมใหม่  ของนักเรียนในเวทีนี้มีเรื่องการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วย  นับเป็นการปรับตัวแก้ไขเท่าทันปัญหาโลก  ซึ่งการเรียนในปัจจุบันต้องปรับการเรียนการสอนให้รู้จักคิดให้เป็น  เปิดโลกการศึกษาของเราให้กว้างขึ้น  ผลิตบุคลากรด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่  ให้มีความสามารถทันต่อความต้องการแรงงานในตลาด  นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังชื่นชมผลงานพัฒนาแอพพลิเคชันของนักเรียนไทย ที่ชื่อว่า แอพสปาใจ  ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างนวัตกรรมที่จะเป็นเครื่องมือให้คนจัดการกับความเครียดที่ต้องเผชิญในแต่ละวันได้เป็นอย่างดี 

***รัฐบาลได้สนับสนุนการพัฒนากำลังคนที่มีศักยภาพสูงด้านวิศวกรรมศาสตร์  โดยมีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2561 อนุมัติโครงการทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัยไปศึกษาต่อ ณ สถาบันโคเซ็นประเทศญี่ปุ่นจำนวน 24 ทุน และต่อมาคณะรัฐมนตรี  มีมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2561 ได้อนุมัติทุนเพิ่มอีกจำนวน 76 ทุน  ภายใต้การสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น รวม 6 รุ่น ปัจจุบันมีนักเรียนทุนที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยและกำลังศึกษาต่อที่สถาบันโคเซ็นประเทศญี่ปุ่น 73 คน  และนักเรียนทุนในจำนวนนี้มากกว่าสิบคน  ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย  ทั้งด้านผลการศึกษาที่ยอดเยี่ยม  และผลงานจากรางวัลการแข่งขันในเวทีต่าง ๆ ระดับโลก นายกรัฐมนตรีกล่าว

.

***นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการศึกษา  โดยเฉพาะการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ที่สอนให้รู้จักคิด  ซึ่งเห็นได้ชัดจากความร่วมมือการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ร่วมกันระหว่างนักเรียนไทย-ญี่ปุ่น ครั้งนี้ที่ทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์และใช้ได้จริงหลายโครงงาน

***หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมนิทรรศการสิ่งประดิษฐ์ไอซีที  ระบบบำบัดน้ำเสียอัจฉริยะที่ควบคุมผ่านแอพพลิเคชันจากโทรศัพท์มือถือ  เป็นการบำบัดน้ำเสียจากในโรงเรียนให้มีคุณภาพน้ำที่ดีก่อนปล่อยสู่แหล่งน้ำในชุมชน นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้เยี่ยมชมการพัฒนาเกมส์ของนักเรียนไทยและนักเรียนญี่ปุ่น ที่มีการแข่งขัน  ภายใต้แนวคิดอนุรักษ์และดูแลสิ่งแวดล้อมเยี่ยมชมนิทรรศการโครงงานแบบโปสเตอร์ของนักเรียนไทยและนักเรียนญี่ปุ่น  และผลงานและนวัตกรรมด้านไอซีทีของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงและมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

***การจัดงานมหกรรมสิ่งประดิษฐ์ทางด้านไอซีทีของนักเรียนไทยและนักเรียนญี่ปุ่น  เกิดขึ้นจากการจัดกิจกรรมความร่วมมือทางวิชาการของกลุ่มโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย  กับกลุ่มโรงเรียนโครงการ Super Sience High Schools และสถาบันโคเซ็น  ประเทศญี่ปุ่น  ภายใต้การสนับสนุนของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน  กระทรวงศึกษาธิการ  สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย  องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น (Jica) ซึ่งได้ริเริ่มความร่วมมือทางวิชาการของทั้งสองประเทศ  มีนักเรียนไทย  และนักเรียนญี่ปุ่นได้แสดงศักยภาพในการสร้างและพัฒนานวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในหลากหลายโครงงานจำนวนมาก 

ขอบคุณข้อมูลข่าว/ภาพข่าวคลิปข่าวจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

///ศูนย์ข่าวเชียงรายทูเดย์

Loading

More Stories