คนรุ่นใหม่ ทางเลือกใหม่ การเมืองใหม่ “ผู้กองต้นน้ำ” ร.ต.อ.ดร.ธนรัช จงสุทธานามณี มุ่งพัฒนาประเทศใน 4 มิติ ผลักดันการกระจายอำนาจ

***หลังจากยุบสภามีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.2566 เป็นต้น การเปิดตัวผู้สมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ก็เริ่มมีความชัดเจนเข้มข้นขึ้น พรรคการเมืองต่างๆเริ่มเดินสายแนะนำผู้สมัครของพรรคในพื้นที่จังหวัดต่างๆ พื้นที่จังหวัดเชียงรายเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากคอการเมืองที่เฝ้าจับตามอง เพราะเป็นการต่อสู้ของนักการเมืองรุ่นใหม่กับนักการเมืองรุ่นเก่า และความท้าทายกับการเปลี่ยนแปลงทิศทางการเมืองที่อาจเป็นบริบทใหม่ของแนวคิดทางการเมืองของภาคประชาชนผ่านการเลือกตั้งในห้วงเวลาใหม่ ที่อาจทำให้เกิดทิศทางการเมืองใหม่ ทางเลือกใหม่ โดยคนรุ่นใหม่

***”ร.ต.อ.ดร.ธนรัช จงสุทธานามณี “ผู้กองต้นน้ำ” ว่าที่ผู้สมัครส.ส. พรรคเพื่อไทย จ.เชียงราย เขต 1 ทายาทนักการเมืองท้องถิ่นที่ฝากผลงานการพัฒนาท้องถิ่นไว้มากมายหลายโครงการจนเป็นที่ยอมรับของประชาชน นายร้อยตำรวจหนุ่มของกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศิษย์เก่าโรงเรียนเทศบาล 6 ผู้ก้าวหน้าสู่ความสำเร็จทางการศึกษา ปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มาวิทยาลัย ปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด สหรัฐอเมริกา มหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของโลก และปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เป็นต้นแบบของคนรุ่นใหม่เชียงรายที่ก้าวหน้าทั้งในด้านการเรียนและการทำงาน ในครั้งนี้ “ผู้กองต้นน้ำ” อาสาทำงานใหญ่เพื่อแผ่นดินถิ่นเกิด

***”ผู้กองต้นน้ำ” ไอดอลหนุ่มของคนรุ่นใหม่ วัย 27 ปี เปิดเผยกับทีมข่าวศูนย์ข่าวเชียงรายทูเดย์ว่า ไม่ได้มีความคิดที่อยากจะเป็นตำรวจหรือเป็นนักการเมืองมาก่อน แต่ได้เห็นและได้เคยติดตาม “คุณพ่อ” คือนายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย แนะนางรัตนา จงสุทธานามณี อดีตส.ส.เชียงรายและอดีตนายกอบจ.เชียงราย ในการทำงานเพื่อสังคม เห็นว่าการที่ได้ช่วยใครให้มีความสุข ทำให้มีความรู้สึกที่ดี ภาคภูมิใจกับสิ่งที่ได้ทำ ในครั้งนี้จึงตัดสินใจที่จะทำงานการเมืองโดยผู้ใหญ่ก็ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี

***สังคมไทยในปัจจุบันมีความสุดโต่งทางความคิด ถ้าไม่ซ้ายสุดก็ขวาสุดไปเลย ความจริงก็ไม่ได้เป็นเรื่องไม่ดี เพราะในสังคมประชาธิปไตย ก็ต้องมีการยอมรับในความคิดเห็นที่แตกต่าง แต่ความคิดที่แตกต่างกันมากเกินไปจนทวีเป็นความขัดแย้ง อาจเปิดโอกาสให้อำนาจที่ 3 หรืออำนาจที่อยู่นอกเหนือระบบเข้ามาช่วงชิงเอาอำนาจจากประชาชนไป จึงอยากอาสามาทำหน้าที่เชื่อมสังคมระหว่างวัยและสังคมที่มีความแตกต่างทางความคิดที่มีมากเกินไป เป็นสะพานเชื่อมความหลากหลาย ทั้งในแง่ทางเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งแนวนโยบายของพรรคเพื่อไทยก็ตรงกับแนวความคิดของตนเอง จึงอาสามาในนามของพรรคเพื่อไทย ซึ่งน่าจะตอบโจทย์ในสิ่งที่ตนอยากทำเพื่อสังคมเชียงรายได้

***เหตุที่เลือกลงรับสมัครเลือกตั้งในเขตที่ 1 ซึ่งเป็นเขตที่มีนักการเมืองระดับประเทศอยู่ เพราะนอกจากตนมีถิ่นพำนักอาศัยอยู่ในพื้นที่เขต 1 มีความเข้าใจปัญหาของพื้นที่มากที่สุด และยังมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถทำงานร่วมกันกับคนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี แม้ว่าตนเองจะยังมีวัยวุฒิและคุณวุฒิที่ยังไม่มากนัด แต่ตนก็มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะเรียนรู้ควบคู่ไปกับการทำงาน พร้อมที่จะนอบน้อมเข้าหาผู้ใหญ่เพื่อขอความรู้ และพร้อมที่จะเป็นต้นแบบให้น้องๆคนรุ่นใหม่ได้เข้ามาช่วยงานการเมืองงานพัฒนาสังคมร่วมกัน และพร้อมเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างวัยที่จะเชื่อมการทำงานร่วมกันของสังคมได้

***ถ้าตนเองได้มีโอกาสเป็นส.ส.ของจังหวัดเชียงราย ตนจะทำตาม 1)นโยบาย 3 เสาหลักทางเศรษฐกิจคือ พัฒนาการเกษตร พัฒนาการค้าชายแดน และพัฒนาการบริการ ภาครัฐควรดึงการเจรจาระดับประเทศลงมาสู่ระดับท้องถิ่น เช่น กรณ๊เปิดด่านพรมแดนมีการเจรจาระดับท้องถิ่นแล้วที่จะสามารถเปิดได้ แต่การเจรจาระดับรัฐยังไม่เกิดขึ้น ด้านการเกษตร เกษตรกรที่ถือเป็นกระดูกสันหลังของประเทศซึ่งมีความสำคัญมาก รัฐควรที่จะเข้ามาสนับสนุนทางด้านเทคโนโลยีการผลิต การถึงดการตลาด และการลดต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกร ทำเกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ในส่วนภาคการบริการ ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ภาคบริการได้รับผลกระทบมาก แต่ภาครัฐยังให้ความช่วยเหลือภาคบริการได้ไม่มากเท่าที่ควร แม่จะมีโครงการเราเที่ยวด้วยกันเข้ามาช่วย แต่ในหลายโรงแรมก็ยังเบิกเงินไม่ได้และเบิกเงินได้ล่าช้า กลายเป็นว่านโยบายมีหลักคิดที่ดีแต่กลับไปซ้ำเติมสถานการณ์ให้แย่ลงอีก และกลายเป็นประเด็นปัญหาที่รัฐเข้าไปแก้ไขไม่สอดคล้องกับประเด็นปัญหาของพื้นที่

***ประเด็นหลักสำคัญที่ตนเองต้องการให้มีการขับเคลื่อนได้แก่ 2)โครงสร้างพื้นฐาน เช่น กรณีการขนส่งพืชผลทางการเกษตรจากพื้นที่เกษตรกรสู่ตลาดที่ยังอำนวยความสะดวกดีพอเป็นเหตุให้การเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นไปได้ช้า 3)การพัฒนาการศึกษา สถานประกอบการเปิดรับสมัครงานด้วยวุฒิขั้นต่ำที่ปริญญาตรี และประชาชนเข้าถึงการศึกษาในระดับอุดมศึกษาได้น้อย ต้องกู้หนี้กยส.เพื่อการศึกษา กลายเป็นว่าการศึกษาเป็นโครงสร้างที่ทำให้หนี้ซ้อนหนี้สินเอาไว้ด้วย

***4)ประเด็นสำคัญที่สุดที่พูดกันบ่อยมากจนกลายเป็นแผ่นเสียงตกร่องไปแล้วก็คือ การกระจายอำนาจ ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่มีการขับเคลื่อนได้จริง หรือที่เรียกว่า นโยบาย one size fits all หรือที่เรียกว่า “นโยบายเสื้อโหล” ซึ่งปัญหาในแต่ละพื้นที่หรือในแต่ละจังหวัดย่อมไม่เหมือนกัน ก็ไม่ควรที่จะใช้นโยบายที่ถูกกำหนดจากส่วนกลางมาใช้แก้ปัญหาในทุกพื้นที่ได้เหมือนกัน

***ผู้กองต้นน้ำกล่าวทิ้งท้ายว่า แม้ตนเองจะดูอ่อนวัยวุฒิและประสบการณ์ แต่ตนเองก็พร้อมที่จะเรียนรู้ และนำเอาประสบการณ์ความรู้ที่เคยรับราชการและการทำธุรกิจของครอบครัวที่มีอยู่มาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด ซึ่งตนพร้อมที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจและความเจริญก้าวหน้าของจังหวัดเชียงรายไปพร้อมกันกับชาวเชียงรายทุกคน เพราะตนก็คือคนเชียงรายที่เกิดที่เชียงราย โตที่เชียงราย และต้องการทำประโยชน์ให้กับเชียงแผ่นดินเกิดของตนเองให้ดีที่สุด

///ศูนย์ข่าวเชียงรายทูเดย์