7 ตุลาคม 2024

chiangraitodaynews

chiangraitodaynews

กรมศุลกากร จัดสัมมนา “Customs 2019: The Next to Beyond” ขยายโครงการ ใช้เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพ บริการรวดเร็ว

***เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 ก.ย.2562 ที่โรงแรมสยามไทรเองเกิ้ล ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย  นางชลิดา พันธ์กระวี รองอธิบดีกรมศุลกากร เปิดงานสัมมนา “Customs 2019 : The Next to Beyond” ภายใต้โครงการพันธมิตรศุลกากรเชิงรุกไปสู่ภูมิภาค สำนักงานศุลกากรภาคที่ 3 เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจในเรื่องการดำเนินพิธีการศุลกากร และแนะนำบริการใหม่ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ประกอบการภายใต้หลักคุณธรรมและความโปร่งใส มีนายกรีชา เกิดศรีพันธ์ เลขานุการกรมศุลากร กล่าวรายงาน นายพงษ์ศักดิ์ ธนะวัฒนานนท์ นายด่านศุลกากรเชียงแสน ให้การต้อนรับ มีผู้ประกอบการภาคธุรกิจเอกชนในภาคเหนือ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการสัมมนากว่า 100 คน

นางชลิดา พันธ์กระวี
รองอธิบดีกรมศุลกากร
นายกรีชา เกิดศรีพันธ์
เลขานุการกรมศุลากร
นายพงษ์ศักดิ์ ธนะวัฒนานนท์
นายด่านศุลกากรเชียงแสน

***นางชลิดา กล่าวว่า กรมศุลกากรได้ปฏิรูปกระบวนการทำงานให้มีความโปร่งใส เป็นธรรม มีความคล่องตัว และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ด้วยการทำโครงการพันธมิตรศุลกากร (Customs Alliances : CA) เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือและการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับผู้ประกอบการภาคเอกชนให้มากขึ้น เป็นการเพิ่มช่องทางการสื่อสารระหว่างภาคเอกชนกับกรมศุลกากร ซึ่งในระยะแรกมีผู้ประกอบการนำเข้าส่งออกร่วมเป็นสมาชิกจำนวน 325 บริษัท ต่อมาในระยะที่ 2 มีสมาชิกเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 129 บริษัท รวมมีสมาชิกพันธมิตรศุลกากรทั้งสิ้นจำนวน 454 บริษัท

***ผลตอบรับในปีที่ผ่านมาสามารถให้บริการคำแนะนำ ติดต่อประสานงาน แก้ไขปัญหา และสร้างความชัดเจน ลดข้อโต้แย้งที่เกิดขึ้นในด้านต่างๆได้เป็นอย่างดี ทั้งปัญหาเชิงนโยบายและปัญหาหน้างานปกติ ในปีงบประมาณ 2562 นี้ ทางกรมศุลกากรมีนโยบายขยายเครือข่ายโครงการพันธมิตรศุลกากรไปสู่ภูมิภาค (Regional Customs Alliance : CA) โดยจัดตั้งคณะทำงานพันธมิตรศุลกากรประจำสำนักงานศุลกากรทั้ง 4 ภาค ซึ่งแต่ละสำนักงานประกอบด้วยบุคลากร ได้แก่ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากร ผู้เชี่ยวชาญสำนักงานศุลกากร นายด่านศุลกากร และเจ้าหน้าที่ชำนาญการ ทำหน้าที่ประสานความร่วมมือกับคณะทำงานโครงการพันธมิตรศุลกากรในส่วนกลาง เพื่อให้บริการแก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ

***นางชลิดา กล่าวต่ออีกว่า การปฏิบัติงานในระยะแรกมีการจัดสัมมนาเพื่อสร้างความรับรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องกฎหมายศุลกากร ระเบียบ พิธีการทางศุลกากร สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ รวมถึงการให้บริการใหม่ ๆ ของกรมศุลกากรให้แก่ผู้ประกอบการ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ให้มีความถูกต้อง รวดเร็ว และตรวจสอบได้ เช่น การชำระเงินผ่านทางออนไลน์ สามารถออกใบรับส่งสินค้าที่บริษัทได้โดยไม่ต้องมาออกที่ด่านศุลกากร สินค้าที่มีจำนวนหลายล็อตเมื่อผ่านการตรวจสอบจากด่านศุลกากรในล็อตแรกแล้ว สามารถนำสินค้าเข้าได้เลยไม่ต้องรอให้ครบจำนวนก่อนแล้วค่อยนำเข้าพร้อมกันทั้งหมดเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาแก่ผู้ประกอบการ สำหรับสินค้าต้องสงสัยที่คาดว่าเป็นสินค้าผิดกฎหมายหรือมีการซุกซ่อนยาเสพติดมากับสินค้าจะต้องผ่านเครื่องเอ็กซ์เรย์ก่อนทุกชิ้น พัสดุสินค้าขนาดไม่ใหญ่มากสามารถใช้เครื่องเอ็กซ์เรย์ขนาดเล็กตรวจสอบได้ทันที

***ด้านนายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า สำนักงานศุลกากรภาคที่ 3 มีนายธวัช เพ่งพินิจ เป็นผู้อำนวยการ มีความรับผิดชอบด่านศุลกากรจำนวน 9 ด่าน ได้แก่ ด่านศุลกากรท่าอากาศยานเชียงใหม่ ด่านศุลกากรแม่สาย ด่านศุลกากรแม่สอด ด่านศุลกากรเชียงแสน ด่านศุลกากรเชียงของ ด่านศุลกากรแม่ฮ่องสอน ด่านศุลกากรทุ่งช้าง ด่านศุลกากรแม่สะเรียง และด่านศุลกากรเชียงดาว ซึ่งด่านศุลกากรเชียงแสนได้ดำเนินงานเพื่อให้สอดรับนโยบายพันธมิตรศุลกากรในเชิงรุก โดยการจัดสัมมนาให้ความรู้ด้านศุลกากรในมิติต่าง ๆ ให้แก่ผู้ประกอบการ ได้แก่ การบริการรับชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Bill Payment) พิธีการศุลกากรตรวจปล่อยของเป็นบางส่วน (Partly) สำหรับการนำของเข้าทางบก ระบบศุลกากรผ่านแดนอาเซียน (ASEAN Customs Transit System: ACTS) และ ระบบ National Single Window (NSW) โดยใช้นวัตกรรม (Innovation) และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้ข้อมูลมีความถูกต้องแม่นยำ เพิ่มความรวดเร็ว และช่วยลดค่าใช้จ่ายของภาคเอกชน

/// ศูนย์ข่าวเชียงรายทูเดย์

Loading

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *