“วราวุธ” ติดตามสถานการณ์ปัญหาหมอกควัน PM 2.5 ที่เชียงราย มอบนโยบายบังคับใช้กฎหมายเข้มงวด จัดทีมเฝ้าระวังการเผาป่า

***เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 เม.ย.2566 ที่ห้องประชุมธรรมลังกา ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายวราวุธ ศิลปอาชา รมต.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะ ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย มี นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผวจ.เชียงราย นายวราดิศร อ่อนนุช รองผวจ.เชียงราย หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหัวหน้าส่วนราชการร่วมประชุม

***นายวราดิศร อ่อนนุช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย รายงานผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาสถานการณ์ปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ของจังหวัดเชียงรายต่อที่ประชุมว่า จังหวัดเชียงรายมีคำสั่งคุมเข้มมาตรการควบคุมไฟป่าและการเผาซากวัสดุการเกษตรและการเผาต่างๆอย่างต่อเนื่อง และยังมีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์งดเผาในสื่อออนไลน์ทุกช่องทาง ประสานผู้นำท้องถิ่นผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้เผยแพร่ผลกระทบจากการเผาป่าต่อชุมชน และมีคำสั่งขยายเวลาห้ามเผาจากเดิม 15 กุมภาพันธ์ – 15 เมษายน 2566 ต่อไปจนถึง 30 เมษายน 2566

***นายพุฒิพงศ์ ผวจ.เชียงราย กล่าวว่า ทางจังหวัดเชียงรายสั่งการให้ทุกพื้นที่สร้างความชุ่มชื้นในอากาศ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก และเนื่องด้วยปีนี้มีปริมาณน้ำฝนค่อนข้างน้อย จึงทำให้ไฟป่า (จากคนเผาป่า) ลุกลามอย่างหนักและรวดเร็ว ทางจังหวัดได้มีการระดมเจ้าหน้าที่เสริมกำลัง ขณะนี้สถานการณ์ถือว่าอยู่ในระดับป้องกันได้ แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งสั่งดำเนินคดีคนเผาป่าจนถึงที่สุด และกล่าวว่า “คนเผาป่า คือฆาตกรทำร้ายผู้คน ทำอากาศที่สดชื่นเป็นมลพิษ” และจังหวัดเชียงรายมีเงินรางวัลนำจับสำหรับผู้แจ้งเบาะแส

***นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า การพูดคุยสร้างความเข้าใจระหว่างหน่วยงานภาครัฐและชาวบ้านชุมชน คือสิ่งสำคัญที่สุด อยากให้ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบวางแผน คุมเข้มมาตรการให้ชัดเจน ปรับแนวคิดกระบวนการใหม่ เตรียมการพร้อมโดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงต่อการถูกเผา นำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา ซึ่งอาจจะมีส่วนช่วยได้มากและเพื่อให้การดำเนินงานไปในทิศทางเดียวกัน

***นายวราวุธ กล่าวว่า อยากให้ทางจังหวัดจัดชุดหน่วยรักษาความปลอดภัยลาดตระเวนในพื้นที่โดยเฉพาะในพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ และพื้นที่เกิดเหตุซ้ำซาก ครอบคลุมพื้นที่ เมือง ป่า เกษตร ตรวจค้น คุมเข้ม คนเข้า – ออก โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืน ยกระดับมาตรการต่างๆ สร้างหน่วยประชาสัมพันธ์กับชุมชน สร้างจิตสำนึก การสื่อสารเชิงรุก สร้างการมีส่วนร่วมกับประชาชน ให้ร่วมกันเป็นหูเป็นตา แจ้งเหตุการเกิดไฟป่าหรือการเผาในที่โล่ง และเร่งรัดแนวทางปฏิบัติตั้งแต่ระดับจังหวัดจนถึงระดับหมู่บ้าน เพื่อมุ่งสร้างความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดี อากาศที่ดี ให้กับประชาชนในพื้นที่ต่อไป

***นายวราวุธ กล่าวต่ออีกว่า แนวทางแก้ปัญหาระยะสั้น คือ ขอความร่วมมือฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพิ่มการเฝ้าระวังในหมู่บ้านและพื้นที่สุ่มเสี่ยง จากรายงานว่าช่วงเวลาที่มักเกิดจุดความร้อนคือช่วงเวลา 01.00-05.00 น. แสดงให้เห็นว่ามีคนจงใจเข้าไปจุดไฟเผาป่า และขอความร่วมมือจากชาวบ้านให้ช่วยเป็นหูเป็นตาดูแลและแจ้งเบาะแสให้ทางการ  ในส่วนของป่าอนุรักษ์จะมีความเข้มงวดเรื่องการลาดตระเวนตรวจสอบให้มากขึ้น ในส่วนป่าสงวนให้ทุกหน่วยงานเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบโดยเน้นการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด ขอให้ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ของกระทรวงฯคิดหาวิธีทำอย่างไรไม่ให้เกิดการเผาขึ้น และให้เกษตรจังหวัดคิดหาวิธีอย่างไรให้เกษตรลดการเผาลงด้วย

***จากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ได้มอบนโยบายให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเข้มงวดการลาดตระเวนพื้นที่ป่าอนุรักษ์และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดหากพบการลักลอบเผาป่า ให้มีการขยายถนนที่ใช้เป็นแนวกันไฟให้กว้างขึ้นจาก 8 เมตร เป็น 12-16 เมตร เนื่องจากพบว่าไฟสามารถลุกลามข้ามถนนไปได้ และยังให้ใช้แนวถนนเดิมโดยไม่มีการตัดถนนใหม่ ภาพรวมการแก้ปัญหานอกจากการหาทางป้องกันไฟป่าแล้วต้องแก้กฎหมายเรื่องการกระจายอำนาจ โดยเพิ่มความสามารถของท้องถิ่นให้สามารถดำเนินสั่งการดับไฟป่าได้ตามสถานการณ์ เนื่องจากทักษะการดับไฟป่าของเจ้าหน้าที่เฉพาะสามารถทำได้ แต่ยังไม่มีประสิทธิภาพเนื่องจากมีการเผาในพื้นที่มากขึ้น

***หลังการประชุมมอบนโยบายให้แก่เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่รับผิดชอบแล้ว นายวราวุธ ศิลปอาชา รมต.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะ ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินตรวจสถานการณ์ไฟป่าท้องที่ อ.แม่สาย อ.แม่จัน อ.เมือง อ.แม่สรวย ซึ่งเป็นไปตามแนวเขาขุนน้ำนางนอน ดอยตุง ดอยจระเข้ ท้องที่ตำบลแม่ยาว ตำบลห้วยชมพู ตำบลวาวี ตำบลแม่สรวย

///ศูนย์ข่าวเชียงรายทูเดย์